ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ติดดาว เป็นฉลากประหยัดไฟฟ้ารูปแบบใหม่ ที่ถูกพัฒนาขึ้นโดยการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เพื่อยกระดับมาตรฐานการประหยัดพลังงานของเครื่องใช้ไฟฟ้าในประเทศไทย ฉลากนี้มีการปรับเปลี่ยนจากฉลากเบอร์ 5 แบบเก่า โดยเพิ่มจำนวนดาวจาก 1 ดาว เป็น 5 ดาว ซึ่งยิ่งมีจำนวนดาวมาก ยิ่งแสดงถึงประสิทธิภาพการประหยัดไฟที่สูงขึ้น
ประโยชน์ของการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ติดดาว
- ประหยัดค่าไฟ: เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีฉลากเบอร์ 5 ติดดาว จะใช้พลังงานน้อยกว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าทั่วไป ส่งผลให้ค่าไฟถูกลง
- รักษาสิ่งแวดล้อม: การใช้ไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และมลพิษทางอากาศ
- ส่งเสริมความยั่งยืน: การใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้ทรัพยากรธรรมชาติมีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น
วิธีดูฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ติดดาว
ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ติดดาว ประกอบไปด้วยองค์ประกอบสำคัญ ดังนี้
- โลโก้ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ติดดาว
- จำนวนดาว: บ่งบอกถึงประสิทธิภาพการประหยัดไฟ 1 ดาว คือ ประหยัดไฟน้อยที่สุด 5 ดาว คือ ประหยัดไฟมากที่สุด
- ค่า EER/SEER: บ่งบอกถึงประสิทธิภาพการใช้พลังงาน
- ปริมาณการใช้ไฟฟ้า: บอกค่าไฟฟ้าที่เครื่องใช้ไฟฟ้าจะใช้ต่อปี
- QR Code: สแกนเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเครื่องใช้ไฟฟ้า
การเลือกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ติดดาว
- เปรียบเทียบประสิทธิภาพการประหยัดไฟ (EER/SEER) และค่าไฟฟ้าต่อปี
- เลือกเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีขนาดเหมาะสมกับการใช้งาน
- เลือกซื้อจากร้านค้าที่เชื่อถือได้
การใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพ
- ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าเมื่อไม่ใช้งาน
- ถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าเมื่อไม่ใช้งาน
- ตั้งอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศให้อยู่ที่ 25-26 องศา
- เลือกใช้หลอดไฟ LED
- ทำความสะอาดเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างสม่ำเสมอ
การใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ติดดาว เป็นการช่วยให้ประหยัดค่าไฟ รักษาสิ่งแวดล้อม และส่งเสริมความยั่งยืน
Leave a comment