ในปัจจุบัน มิจฉาชีพได้หันมาใช้วิธีการหลอกลวงประชาชนผ่านแอปพลิเคชันมากขึ้น แอปเหล่านี้มักถูกออกแบบมาเพื่อล่อลวงเหยื่อให้เปิดเผยข้อมูลส่วนตัว ดาวน์โหลดมัลแวร์ หรือโอนเงิน
รวมแอปมิจฉาชีพ
- แอปแอบอ้าง: แอปเหล่านี้มักแอบอ้างเป็นหน่วยงานราชการ ธนาคาร หรือบริษัทที่น่าเชื่อถือ เพื่อหลอกลวงให้เหยื่อเปิดเผยข้อมูลส่วนตัว เช่น รหัสผ่าน ข้อมูลบัญชีธนาคาร หรือรหัส OTP
- แอปดูดเงิน: แอปเหล่านี้มักถูกออกแบบมาเพื่อขโมยเงินจากบัญชีธนาคารของเหยื่อ โดยอาจแฝงมัลแวร์ที่สามารถดักจับข้อมูลการทำธุรกรรม หรือหลอกลวงให้เหยื่อโอนเงินไปยังบัญชีของมิจฉาชีพ
- แอปพนันออนไลน์: แอปเหล่านี้มักชักชวนให้เหยื่อลงทุนพนันออนไลน์ โดยอ้างว่าสามารถทำเงินได้ง่าย แต่สุดท้ายเหยื่อมักสูญเสียเงิน
- แอปหาคู่: แอปเหล่านี้มักถูกใช้เพื่อหลอกลวงเหยื่อ หรือลวงเอาเงิน
วิธีป้องกันตัวจากแอปมิจฉาชีพ
- อย่าดาวน์โหลดแอปจากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ: ควรดาวน์โหลดแอปจาก App Store หรือ Google Play Store เท่านั้น
- อ่านรีวิวของแอปก่อนดาวน์โหลด: รีวิวจากผู้ใช้จริงสามารถช่วยให้คุณตัดสินใจได้ว่าแอปนั้นปลอดภัยหรือไม่
- ตรวจสอบสิทธิ์การเข้าถึงของแอป: ก่อนติดตั้งแอป ให้ตรวจสอบว่าแอปขอสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลอะไรบ้าง และอนุญาตเฉพาะสิทธิ์ที่จำเป็น
- อย่าเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวผ่านแอป: ไม่ควรเปิดเผยข้อมูลส่วนตัว เช่น รหัสผ่าน ข้อมูลบัญชีธนาคาร หรือรหัส OTP ผ่านแอป
- ติดตั้งโปรแกรมแอนตี้ไวรัส: โปรแกรมแอนตี้ไวรัสสามารถช่วยป้องกันมัลแวร์ที่แฝงมากับแอป
- อัปเดตระบบปฏิบัติการและแอป: การอัปเดตระบบปฏิบัติการและแอปอยู่เสมอ จะช่วยแก้ไขช่องโหว่ด้านความปลอดภัยที่อาจถูกมิจฉาชีพ
หากสงสัยว่าแอปใดเป็นแอปรวมมิจฉาชีพ
- สามารถแจ้งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง: เช่น กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.สอท.) หรือ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)
- สามารถค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับแอปนั้น: ผ่านเว็บไซต์ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หรือเว็บไซต์รีวิวแอป
การรู้เท่าทันกลวิธีของมิจฉาชีพ จะช่วยป้องกันตัวคุณจากแอปมิจฉาชีพได้
Leave a comment